Select Page

 

 

 

 

 

 

photo credit:   http://www.channelnewsasia.com/

 

สำหรับน้องๆที่เตรียมตัวจะไปเรียนต่อที่สิงคโปร์ อาจจะเคยได้ยินมาบ้างว่า สิงคโปร์นั้นแบ่งการเรียนมัธยมเป็น 2  stages ด้วยกัน นั่นคือ เป็นกาเรียนเรียนระดับมัธยม (secondary) 4 ปี  ตอนจบ secondary 4 ต้องสอบ O-level  แล้วหลังจากนั้น บางคนก็เลือกไปเรียนระดับเตรียมมหาวิทยาลัย (Junior College) หรือจะไปเรียนสายวิชาชีพ ( Polytechnic) ต่ออีก 2-3 ปี

 

ซึ่งขั้นตอนการยื่นคะแนนเพื่อเข้า Junior College หรือ Polytechnic นั้น ก็จะแตกต่างกันและมีหลักเกณฑ์คะแนนบังคับนิดหน่อยค่ะ   แต่เนื่องจากสิงคโปร์นิยมใช้ตัวย่อในการเรียกของต่างๆ   ดังนั้น วันนี้ เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการยื่นคะแนนเพื่อเรียนต่อ Junior College กันค่ะ  โดยน่าจะเป็นประโยชน์กับทั้งน้องๆที่เรียนในระบบ O-level และ IGCSE ด้วยนะคะ

Singapore’s Grading System

ที่สิงคโปร์นั้น จะมีการให้ตัวเลขพร้อมไปกับเกรดที่ได้ด้วยค่ะ  โดยยิ่งเกรดดีเท่าไหร่ ตัวเลขก็ยิ่งน้อยเท่านั้น อย่างตามตารางด้านล่างนี้  จะเห็นว่าถ้าน้องๆ ทำคะแนนวิชาไหนได้มากกว่า 75% ขึ้นไป จะถือว่าเป็นเกรดที่ดีที่สุดคือ A1 นั่นเองค่ะ  แต่ถ้าอยู่ระหว่าง 70-74% ก็ยังได้ A อยู่นะคะแต่เป็น A2 ค่ะ

 

ซึ่งตัวเลขที่ติดมากับเกรดนี้มาผลอย่างมาก กับการยื่นเข้า Junior College ค่ะ

มีผลยังไงน่ะเหรอคะ   มาอ่านต่อกันเลยค่ะ

 

Application for Junior College

อย่างที่เห็นในตารางแล้วว่า ยิ่งคะแนนดีเท่าไหร่ ตัวเลขเกรดก็ยิ่งน้อยเท่านั้น  เพราะฉะนั้นเด็กๆที่จะ qualified หรือมีคุณสมบัติพอยื่นคะแนนเข้า Junior College ได้นั้น จะต้องมีผลรวม L1R5  รวมกันไม่เกิน 20 คะแนนค่ะ

เริ่มจะมึนๆ แล้วใช่มั้ยคะ   L1R5 คืออะไร 20 คะแนนอะไร  มาค่ะ อธิบายต่อนะคะ

L1R5 ก็คือ   วิชาภาษาแบบ first language  1 ตัว (L1) ปกติก็มักจะเป็นวิชาภาษาอังกฤษนี่แหละค่ะ และ Relevant subjects หรือวิชาอื่นๆที่เกี่ยวข้องอีก 5 ตัว (R5) รวมทั้งสิ้นใช้คะแนนยื่นจาก 6 วิชา โดยให้ผลรวมของตัวเลขเกรด รวมกันแล้วไม่เกิน 20 คะแนน เช่น  เด็กคนนึงอาจจะได้แนน จาก  L1R5 ตามนี้ A1, B3,B4, A2, C5,A2   ผลรวมของตัวเลขเกรดคือ 1+3+4+2+5+2 = 17 คะแนน    น้องคนนี้จะยื่นเข้า Junior College ได้ เพราะคะแนนรวมไม่เกิน 20 ค่ะ

ทั้งนี้ทั้งนั้นตัว R5 นี้ จะเลือกวิชาที่ดีที่สุดมามั่วๆ ไม่ได้นะคะ เพราะอย่างน้อยๆ ต้องมี Math 1 ตัว  Science  1 ตัว และ Humanities 1 ตัวค่ะ   และควรจะสัมพันธ์กับวิชาที่เราคิดว่าจะไปเลือกเรียนต่อในระกับ Junior College เพื่อไปเข้ามหาวิทยาลัยในสาขาที่ต้องการในที่สุดด้วยค่ะ

 

The lower scores, the BETTER chance!                                                                                                               

พอเราเข้าใจแล้วว่าผลรวมคะแนนมาจากอะไร ก็จะเห็นว่าคะแนนที่น่าจะดีที่สุดสำหรับ L1R5 ก็คือ 6 คะแนนนั่นเอง ซึ่งหมายถึงทำคะแนนได้ A1 ทุกวิชาเลย   แต่ๆๆๆๆ  คะแนนยังสามารถลดลงได้อีกด้วยนะคะ !    นั่นก็เพราะว่า เค้าจะมี bonus point ให้สำหรับน้องคนไหนที่ทำกิจกรรมชมรม (CCA) แล้วได้เกรดดีๆ   หรือสอบวิชาภาษาแม่ระดับสูง  ( Higher Mother tongue) หรือมาจากโรงเรียนที่เป็นพันธมิตรกับ Junior College นั้นๆ   ถ้ามีคุณสมบัติตามนี้เพิ่ม ก็อาจจะลดลงไปได้จนเหลือ 3-4 คะแนนได้เลยค่ะ สุดยอด!!   แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คะแนนพิเศษพวกนี้ ก็ต้องได้มาจากความพยายามและตั้งใจทั้งสิ้น   เพราะอย่าง Higher Mother Tongue Language นั้นได้ข่าวว่ายากมากกกกเลยค่ะ

 

พอจะเห็นภาพแล้วหรือยังคะ   ว่าถ้าเราผ่านขั้นตอน AEIS หรือได้รับทุนเข้าไปเรียนที่สิงคโปร์แล้ว เราจะต้องวางแผนการเรียนของเรายังไง   การวางแผนนี่แหละ จะทำให้เราไม่เรียนอย่างสะเปะสะปะ และมี focus ให้กับตัวเองค่ะ

 

คราวหน้า จะมาลงเรื่องเกณฑ์การเข้า Polytechnic นะคะ   แม้จะบอกว่าเป็นสายวิชาชีพ แต่พบว่ามีเด็กๆ ที่คะแนน O-levels ดีพอจะเข้า Junior College หลายคน เลือกที่จะไปทาง Polytechnic เพราะเห็นประโยชน์บางอย่างจากการเรียนทางด้านนี้เหมือนกันค่ะ

 

Preptitude เป็นสถาบันกวดวิชาและให้คำปรึกษาสำหรับน้องๆที่ต้องการไปเรียนต่อโรงเรียนรัฐบาลและเอกชนที่ประเทศสิงคโปร์

สนใจติดต่อสอบถามเรื่องการเตรียมความพร้อมสอบ AEIS  การสอบชิงทุนอาเซียน (Asean Scholarships) หรือหลักสูตรนานาชาติอื่นๆ

โทร 080-980-9484  (เปิดทำการ อังคาร – ศุกร์เวลา 10.00 น. – 18.30 น. และเสาร์-อาทิตย์เวลา 10.00 น.- 18.00 น.)  

email: contact.preptitude@gmail.com